มาวิน โทแก้ว นักวิชาการมือใหม่*
บทนำ
อาชีพครูเป็นอาชีพที่สร้างประโยชน์ให้แก่ตนเองและต่อเด็กเยาวชนผู้ที่ต้องการความรู้ที่ยังจะต้องศึกษา
มันเป็นสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่าอย่างมากมาย ฉะนั้นครูต้องมีความมั่นใจในตัวเองให้มากมีความรักมีความรักความชื่อสัตว์ต่อตนเองและต่อสถาบันต่อเพื่อนพ้องในทุกๆด้าน
ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนการสอน ด้านการศึกษา ปลูกฝังสิ่งที่ดีให้แก่ให้แก่ตนเองและสถาบันไม่ว่าจะด้านไหนเราต้องหมั่นเรียนรู้หมั่นศึกษา
เพื่อที่จะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพมีประสิทธิภาพในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้มีความชำนานสามารถนำไปฝึกสอนได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีต่อสังคมต่อเด็กเยาวชนด้วย
ในความเป็นครูต้องรู้จักให้อภัยทำตัวให้มีความน่าเคารพน่านับถือสามารถเป็นผู้นำเป็นผู้ให้คำแนะนำเป็นผู้สอนและให้ความรู้ที่ดีได้
แบ่งเวลาการทำงานที่ถูกต้อง ตรงต่อเวลาให้ความสำคัญกับเวลาไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามเพราะมันจะเป็นการผลักดันให้เราดูเหมือนมีความรับผิดชอบต่อเวลาและเรื่องราวต่างๆ
ค้นหาข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์แก่สถาบัน เช่นคิดค้นหากิจกรรมต่างๆที่ควรจะจัดและจะต้องมีประโยชน์สามารถให้ความรู้แก่ผู้ศึกษาผู้ที่ยังไม่ได้รู้
เช่น เพื่อน ครูอาจารย์ การเป็นครูคือผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ความสามารถ
คือการเป็นผู้นำ
ฉะนั้นครูต้องมีความรู้และความสามารถที่จะสร้างคนให้มีประสิทธิภาพที่ดีมีความรู้ความสามารถ
ครูจึงเป็นบุคคลหนึ่งที่สำคัญที่จะสร้างเด็กและเยาวชนให้ได้ดีมีความรู้ในวันข้างหน้าและในอนาคต
ผู้เขียนจึงได้นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจ
๕ ประการคือ
๑. ความหมายและความสำคัญของจรรณยาบรรณ
๒. ความสำคัญของวิชาชีพครู
๓. จรรยาบรรณและเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู
๔. จรรณยาบรรณครูที่พึงประพฤติปฏิบัติต่อผู้เรียน
๙ ประการ
๕. แนวทางการพัฒนาวิชาชีพครู
๑.๑ ความหมายของจรรณยาบรรณ
จรรยาบรรณในวิชาชีพ
หมายถึง ประมวลมาตรฐานความประพฤติที่ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องประพฤติปฏิบัติเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติอย่างถูกต้องเพื่อผดุงเกียรติและสถานะของวิชาชีพนั้นก็ได้ผู้กระทำผิดจรรยาบรรณ
จะต้องได้รับโทษโดยว่ากล่าว ตักเตือน ถูกพักงาน หรือถูกยกเลิกใบประกอบวิชาชีพได้
๑.๒ ความสำคัญของจรรณยาบรรณ
จรรยาบรรณในวิชาจะเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะจำแนกอาชีพว่าเป็นวิชาชีพหรือไม่
อาชีพที่เป็น “วิชาชีพ” นั้นกำหนดให้มีองค์กรรองรับ
และมีการกำหนดมาตรฐานของความประพฤติของผู้อยู่ในวงการวิชาชีพซึ่งเรียกว่า “จรรยาบรรณ” ส่วนลักษณะ “วิชาชีพ ” ที่สำคัญคือ เป็นอาชีพที่มีศาสตร์ชั้นสูงรองรับ
มีการศึกษาค้นคว้าวิจัยและพัฒนาวิชาชีพมีการจัดการสอนศาสตร์ดังกล่าวในระดับอุดมศึกษาทั้งการสอนด้วยทฤษฏีและการปฏิบัติจนผู้เรียนเกิดความชำนาญ
และมีประสบการณ์ในศาสตร์นั้น นอกจากนี้จะต้องมีองค์กรหรือสมาคมวิชาชีพ ตลอดจนมี “จรรยาบรรณในวิชาชีพ” เพื่อให้สมาชิกในวิชาชีพดำเนินชีวิตตามหลักมาตรฐานดังกล่าวหลักที่กำหนดในจรรยาบรรณวิชาชีพทั่วไป
คือ แนวความประพฤติปฏิบัติที่มีต่อวิชาชีพต่อผู้เรียน ต่อตนเอง และต่อสังคม ดังนี้[๒]
ผู้ที่อยู่ในวงวิชาชีพจะต้องยึดถือจรรยาบรรณ
ในการดำรงวิชาชีพให้เป็นที่ยอมรับ คือ
๑.
ศรัทธาต่อวิชาชีพ ผู้ที่อยู่ในวงการวิชาชีพครู
ต้องมีความรักและศรัทธาต่อวิชาชีพครู
เห็นว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ในฐานะที่เป็นอาชีพที่สร้างคนให้มีความรู้ความสามารถ
และเป็นคนที่พึงประสงค์ของสังคม ผู้อยู่ในวิชาชีพจะต้องมั่นใจ
ในกาประกอบวิชาชีพนี้ด้วยความรัก และชื่นชมในความสำคัญของวิชาชีพ
๒. ธำรงและปกป้องวิชาชีพ
สมาชิกของสังคมวิชาชีพต้องมีจิตสำนึกในการธำรง ปกป้อง
และรักษาเกียรติภูมิของวิชา ไม่ให้ใครมาดูหมิ่นดูแคลน หรือเหยียบย่ำ
ทำให้สถานะของวิชาชีพต้องตกต่ำ หรือ
มัวหมองการธำรงปกป้องต้องกระทำทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาหรือต้องมีการแก้ไขข่าวหรือประท้วงหากมีข่าวคราวอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อวิชาชีพ
๓. พัฒนาองค์ความรู้ในวิชาชีพ
หน้าที่ของสมาชิกในวงการวิชาชีพคือ การที่ต้องรับผิดชอบในการศึกษา
ค้นคว้าวิจัย สร้างความรู้และเผยแพร่ความรู้
เพื่อทำให้วิทยาการในศาสตร์สาขาวิชาชีพครูก้าวหน้าทันสังคมทันเหตุการณ์
ก่อประโยชน์ต่อประชาชนในสังคม ทำให้คนเก่ง และฉลาดขึ้น
โดยวิธีการเรียนการสอนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรักเรียน ใฝ่รู้ ช่างคิด ทีวิจารณญาณ
มีบุคลิกภาพที่พึงประสงค์ มากขึ้น
๔.
สร้างองค์กรวิชาชีพให้แข็งแกร่งสมาชิกในวงวิชาชีพต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องสร้างองค์กรวิชาชีพให้คงมั่นธำรงอยู่ได้ด้วยการเป็นสื่อกลางระหว่างสมาชิก
และเป็นเวทีให้คนในวงการได้แสดง
ฝีมือและความสามารถทางการสร้างรูปแบบใหม่ของการเรียนการสอนตลอดจนการเผยแพร่ผลงานทางด้านการสร้างแบบเรียนใหม่
ๆ การเสนอแนวความคิดห่าในเรื่องของการพัฒนาคน การเรียนการสอน และการประเมินผล
๕. ร่วมมือในกิจกรรมขององค์กรวิชาชีพ
สมาชิกในสังคมวิชาชีพต้องร่วมมือกันในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ
เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวในเรื่องของความคิด หรือการจัดประชุม สัมมนา
แลกเปลี่ยนแนวความคิดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
กิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร หากไม่ได้รับความสนับสนุนจากสมาชิกแล้ว ทำให้องค์กรวิชาชีพขาดความสำคัญลงและไม่สามารถดำเนินภารกิจขององค์กรวิชาชีพต่อไปได้บทบาทของการธำรงมาตรฐานและการส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาการก็ย่อมจะลดลงด้วย
ถ้าไม่มีปริมาณสมาชิกที่สนับสนุนเพียงพอ
๒. ความสำคัญของวิชาชีพครู
การสอนเป็นภารกิจหลักของครู ครูมืออาชีพจึงต้องเน้นการสอนให้มีคุณภาพ
เพราะว่าคุณภาพการสอนของครูย่อมส่งผลดีต่อนักเรียนและเยาวชนของชาติ
การประเมินคุณภาพของครูจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องประเมินจากตัวเด็กและเยาวชนของชาติ
ดังคำกล่าวที่ว่า “คุณภาพของเด็ก” สะท้อน “คุณภาพของครู” ดังนั้น ครูมืออาชีพควรมีและควรเป็นก็คือ
ต้องเน้นคุณลักษณะพื้นฐานนั่นคือ ฉันทะ เมตตาและกัลยาณมิตร
ซึ่งถือว่าเป็นคุณภาพพื้นฐานที่สำคัญของครูและพัฒนาการสอนของครูซึ่งเป็นภารกิจหลัก
โดยเฉพาะการสอนอย่างมีคุณภาพ นั่นคือครูมืออาชีพ
จึงต้องมีคุณธรรมโน้มนำทำการสอนอย่างมีคุณภาพมีภาพลักษณ์ของความเป็นครูดี เพื่อพัฒนาศักดิ์ศรีของอาชีพครูสืบไป
ราชบัณฑิตยสถาน[๓] ได้กล่าวว่า วิชาชีพ คือ
อาชีพที่ต้องอาศัยวิชาความรู้ ความชำนาญ
และไปดูข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
"วิชาชีพชั้นสูง"
ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือ จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้สูง
มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานสูงขึ้น มีการติดตาม ศึกษา ค้นหาความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่
ทั้งความรู้ทางคณิตศาสตร์ ภาษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ คุณธรรม
จริยธรรม เศรษฐศาสตร์ ดนตรี สุขภาพ อนามัย ฯลฯ ทั้งความรู้ที่เกิดขึ้นในและต่างประเทศ
ครูกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง
คือ การทำให้ครูมีจิตวิญญาณความเป็นครูอย่างแท้จริง
โดยมีพันธะหน้าที่ในการสั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีและมีความรู้
ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่หนักหนากว่าคนธรรมดาทั่วไป
ดังนั้นจึงต้องทำให้ครูยืนอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างาม และไม่เดือดร้อนเรื่องฐานะความเป็นอยู่
เพื่อให้พวกเขาทุ่มเทพลังทั้งหมดในการสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพและคุณธรรม
ทัศนีย์ บัวคำ[๔] ได้กล่าวว่า ครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง (profession)
ที่ได้รับการยอมรับมาช้านานกว่าร้อยปีอย่างเป็นทางการโดย
เฉพาะประเทศไทย ความเป็นวิชาชีพของอาชีพครู
มีองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ ๖ ประการคือ
๑.
วิชาชีพที่ให้การบริหารแก่สังคมในลักษณะที่มีความจำเป็นและเจาะจง (social
service)
๒.
สมาชิกในวงการวิชาชีพครูจะต้องใช้วิธีการแห่งปัญญาในการให้บริหาร (intellectual
method) ๓. สมาชิกในวงการวิชาชีพครูจักต้องได้รับการศึกษาอบรมให้มีความรู้ กว้างขวางลึกซึ้ง โดยใช้ระยะเวลายาวนานพอสมควร (long
period training )
๔.
สมาชิกในวงการวิชาชีพครูจักต้องมีเสรีภาพในการใช้วิชาชีพนั้น ๆ
ตามมาตรฐานของวิชาชีพ (Professional autonomy)
๕. วิชาชีพครูจะต้องมีจรรยาบรรณ (professional
ethics)
๖.
วิชาชีพครูจะต้องมีสถาบันวิชาชีพเป็นแหล่งกลางในการสร้างสรรค์
จรรโลงความเป็นมาตรฐานวิชาชีพ (professional institute)
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๔๒[๕]
มีการกำหนดเกี่ยวกับวิชาชีพไว้ว่ากระบวนการผลิตและพัฒนาครู คณาจารย์
และบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง
โดยรัฐจัดสรรงบประมาณและกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์
และบุคลากรทางการศึกษาอย่างเพียงพอ มีกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการ
ฯลฯ ให้มีองค์กรวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษา
เป็นองค์กรอิสระมีอำนาจหน้าที่กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ
ออกและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
รวมทั้งกำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ครู ผู้บริหารสถานศึกษา
ผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาอื่นทั้งของรัฐและเอกชน ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ครู เป็นวิชาชีพที่ทุกประเทศต้องมี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย
วิชาชีพครูจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้แก่เด็กนักเรียนให้มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ
ผู้ที่เข้าเรียนหลักสูตรการผลิตครู จะได้รับใบประกอบวิชาชีพครู เพื่อใช้ทำการสอน
ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้เรียนมาในหลักสูตรการผลิตครู ก็จะไม่ได้รับใบประกอบวิชาชีพครู
ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าใครในประเทศไทยที่ทำการสอนโดยไม่มีใบวิชาชีพครู
ถือว่าเป็น"ครู"ที่ผิดกฎหมาย
๓. จรรยาบรรณและเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู
๓.๑
ความหมายของจรรยาบรรณวิชาชีพครู
วิชาชีพชั้นสูงใดๆก็ตาม
ไม่ใช่เป็นการรวมกลุ่มของบุคคลซึ่งประกอบด้วยอาชีพเดียวกันหรือปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกในกลุ่มเดียวกันเท่านั้น
แต่ยังต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องความสามรถและคุณภาพของสมาชิกในวิชาชีพนั้นๆด้วย
จึงมักมีการกำหนดข้อห้ามมิให้สมาชิกระทำหรือประพฤติ อันจะก่อให้เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียต่อวิชาชีพโดยส่วนรวมสิ่งที่ช่วยยับยั้งเตือนสติการกระทำนี้
คือ จรรยาบรรณของวิชาชีพ อาชีพครูซึ่งเป็นวิชาชีพชั้นสูงอาชีพหนึ่ง
จึงต้องมีจรรยาบรรณวิชาชีพครูด้วย ในฐานะครูด้วย
ในฐานะครูต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์
ต้องมีกิริยามารยาทที่งดงาม
ครูต้องมีจรรยาบรรณและวินัยในตนเอง เพื่อเป็นกรอบและแนวทางในการปฏิบัติตน
ดังนั้นจึงมีผู้ให้ความหมายไว้หลายอย่างดังนี้.
พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน[๖] ให้ความหมายของคำว่า“จรรยาบรรณ” ไว้ว่าเป็นคำนาม หมายถึง
ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกำหนดขึ้น
เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ
ชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
สำนักงานก.พ.[๗] กล่าวว่า “จรรยาบรรณ” หมายถึงประมวลความประพฤติเพื่อรักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและส่งเสริมชื่อเสียงเกียรติคุณ เกียรติฐานะของข้าราชการพลเรือน อันจะยังผลให้ผู้ประพฤติเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาและยกย่องของบุคคลทั่วไป
ไกรนุช ศิริพูล[๘] กล่าวว่า จรรยาบรรณของครู คือ หนังสือหรือเอกสารที่ว่าด้วยกิริยา ที่ครูควรประพฤติปฏิบัติ.
ยนต์
ชุ่มจิต[๙] กล่าวว่า จรรยาบรรณของครู หมายถึง ประมวลความประพฤติ หรือกิริยาอาการที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูควรประพฤติปฏิบัติ เพื่อรักษา
ส่งเสริมเกียรติคุณ
และฐานะของความเป็นครู
จากความหมายพอสรุปได้ว่า
จรรยาบรรณของครู หมายถึง ประมวลความประพฤติ ที่ว่าด้วยกิริยา ที่ครูควรปฏิบัติ
เพื่อรักษา ส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
และฐานะของความเป็นครู
๓.๒. จรรยาบรรณวิชาชีพครู
ผู้ประกอบอาชีพทุกอาชีพจะ
ต้องมีระเบียบวิธีการปฏิบัติเป็น ลักษณะเฉพาะของตนเอง ซึ่งระเบียบหรือแนวปฏิบัตินั้นจะ
ต้องสอดคล้องกับศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของสังคม นั่นก็คือ ทุกคนทุกอาชีพจะ ต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพของตน
พิบูลย์ กระแสสุข[๑๐]
กล่าวในเรื่องจรรยาบรรณของวิชาชีพครูว่า มีความจําเป็นอย่างมาก
เพราะงานจัดการศึกษาจะสําเร็จลงได้เพราะครูผู้ปฏิบัติแต่ด้วยเหตุที่ครูเป็นมนุษย์มีชีวิตจิตใจ
ความรู้สึก ทําให้ครูมีความพึงพอใจมีความรักในอาชีพรู้บทบาทหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีอุดมการณ์ยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพครูซึ่งเป็นที่คาดหวังของสังคมว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
มีคุณธรรม จริยธรรมปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ เป็นแบบอย่างแก่ศิษย์และ ผู้คนทั่วไป
การพัฒนาส่งเสริมพฤติกรรมของครูให้เป็นไปตามจรรยาบรรณวิชาชีพครูจึงเป็นเรื่องสําคัญ
เพราะวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง มีสภาวิชาชีพ มีจรรยาบรรณวิชาชีพ
ซึ่งจรรยาบรรณเป็นเรื่องของความรู้สึกนึกคิดที่รับผิดชอบต่อสังคมและ ประเทศชาติซึ่งจะต้องอาศัยคุณธรรมทางศาสนาเข้ามาประกอบด้วย
บางอาชีพมีจรรยาบรรณเข้ามาควบคุมอย่างเคร่งครัดโดยกําหนดเป็นลายลักษณ์อักษร หากผู้ประกอบวิชาชีพนั้นๆ
ฝ่าฝืนหรือละเมิดก็จะถูกคาดโทษหรือลงโทษแล้วแต่กรณีหากร้ายแรงก็อาจจะมีการถอดถอนใบอนุญาตประกอบอาชีพนั้นด้วย
พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์[๑๑]
กล่าวว่า จรรยาบรรณวิชาชีพครูคือกฎแห่งความประพฤติสําหรับสมาชิกวิชาชีพครูซึ่งองค์กรวิชาชีพครูเป็นผู็กําหนด
และสมาชิกในวิชาชีพทุกคนต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากมีการละเมิดจะมีการลงโทษ
จะต้องมีลักษณะ ๔ ประการคือ
๑.
เป็นคํามั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อผู้เรียน (Commitment to the student)
๒. เป็นคํามั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อสังคม
(Commitment
to the society)
๓. เป็นคํามั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อวิชาชีพ
(Commitment
to the profession)
๔. เป็นคํามั่นสัญญาหรือพันธะผูกพันต่อสถานปฏิบัติงาน
(Commitmentto
the employment practice)
สํานักเลขาธิการคุรุสภา[๑๒]
ไดกําหนดจรรยาบรรณของครูไว ๙ ประการ ดังนี้
๑. ครู ตองรักเมตตา โดยใหความเอาใจใสและ
ชวยเหลือ สงเสริม ใหกําลังใจ ในการศึกษาเลาเรียนแกศิษย์โดยเสมอหนา
๒. ครูตองอบรม สั่งสอน ฝกฝน สรางเสริมความรูทักษะ
และนิสัยที่ถูกตองดีงามใหเกิดแกศิษย์อยางเต็มที่ความสามารถดวยความบริสุทธิ์ใจ
๓. ครูตองประพฤติปฏิบัติตนเปนแบบอยางที่ดีแกศิษย์ทั้งกายวาจา
และจิตใจ
๔. ครูต้องไม่กระทําตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา จิตใจอารมณ์และสังคมของศิษย์
๕. ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติและ
ไม่ให้ศิษย์กระทําการใดๆ อันเป็นประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ
๖. ครูย่อมพัฒนาทั้งในด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพ
และวิสัยทัศน์ให้ทนต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ
๗. ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครูและ
เป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพครู
๘. ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์
๙. ครูพึงประพฤติปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์และ
พัฒนาภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย
ดังที่
บวร ทองยัง[๑๓] กล่าวว่า ในการประกอบวิชาชีพนั้นมีความจําเป็นที่จะต้องมีมาตรการในการควบคุมจรรยาบรรณของผู้ประกอบอาชีพนั้นๆ
โดยมีข้อจํากัดที่ชัดเจนเพื่อสามารถนําไปสู่การปฏิบัติและ ต้องมีองค์กรทีทําหนาที่ในการควบคุมดูแล ซึ่งกําหนดให้มีการออกใบอนุญาตในการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นตัวควบคุมจรรยาบรรณของผูประกอบอาชีพ
ถาไมมีมาตรการหรือองค์กร ในการพิจารณาผู้กระทําผิดจรรยาบรรณครูก็สามารถกอใหเกิดความเสื่อมในวิชาชีพได้ดังนั้นการที่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพนั้น
จําเปน ต้องเป็นผู้ที่มีจริยธรรมในตัวเองอยางสูง เพื่อนําไปสูการพัฒนาและ
เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
สรุปวา ความสําคัญของจรรยาบรรณครูเปนสิ่งที่ชี้ใหเห็นถึงความเปนครูของครูอยางแทจริง
อาชีพครูมีคุณคาและ สงผลตอทุกวิชาชีพเชนนี้ตองมีจรรยาบรรณระดับสูงเทานั้น
จึงสามารถรักษาอาชีพครูใหคงอยูต่อไป
๓.๒.
เกณฑมาตรฐานวิชาชีพครู
องค์ประกอบมาตรฐานของวิชาชีพครูตามแนวทางคุรุสภามี[๑๔].ดังนี้
มาตรฐานวิชาชีพครูก็คือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ
และคุณภาพที่พึงประสงค์ที่ตองการให้เกิดขึ้นในการประกอบวิชาชีพครูซึ่ง ครูใชเปนเกณฑ์ในการปฏิบัติงานมาตรฐานวิชาชีพ
ครูจึงมีลักษณะเฉพาะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจัดการเรียนการสอน และมีความแตกตางจากลักษณะเฉพาะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจัดการเรียนการสอน
และมีความแตกต่าง จากลักษณะของการประกอบวิชาชีพอื่น ทั้งนี้มาตรฐานวิชาชีพครูจะเป็นหลักเกณฑ์การปฏิบัติงานของครูเพื่อนําไปสู่การพัฒนาครูและการพัฒนาการเรียนการสอน
การพัฒนาเด็ก และพัฒนาสังคมประเทศชาติใหมีความเจริญกาวหนาและ มีความสุข
มาตรฐานวิชาชีพจึงทําใหผูเรียน ผูปกครองและสังคมเชื่อมั่นตอการประกอบวิชาชีพครูคุรุสภาไดกําหนดมาตรฐานวิชาชีพครูประกอบดวยองคประกอบสําคัญ
๓ ประการ ดวยกันคือ มาตรฐานดานความรูและประสบการณวิชาชีพ มาตรฐานดานการปฏิบัติงาน
และมาตรฐานดานการปฏิบัติตน ดังนี้
มาตรฐานดานที่
๑ ของมาตรฐานวิชาชีพครูไดแก มาตรฐานดานความรูและประสบการณวิชาชีพ เปนคุณลักษณะดานความรูความสามารถ
และทักษะเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ ซึ่งจะตองไดรับการศึกษาและฝึกประสบการณวิชาชีพครูจากสถาบันผลิตครูมาก่อน
และถือว่าเปนคุณลักษณะเบื้องตนที่จะไดรับสิทธิในการประกอบวิชาชีพครูเกณฑมาตรฐานดาน
ความรูของผูที่จะประกอบวิชาชีพครูครูจะตองมีความรูไมต่ำกว่าระดับปริญญาตรีทางการศึกษา
โดยคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษานี้จะตองเปนปริญญาที่องคกรวิชาชีพครูใหการรับรอง
การไดรับคุณวุฒิเปนหลักประกันวาเปนผูมีความรูและความสามารถที่ไดรับจากการศึกษาในสถาบันผลิตครูนี้อยางนอยจะตองประกอบดวยความรูสําคัญ
๓ ดานคือ
๑. ความรูพื้นฐานที่จะทําใหผูประกอบวิชาชีพครูเปนคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมและเขาใจวัฒนธรรมประเพณีไทย
ตลอดจนรูเทาทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
๒. ความรูเกี่ยวกับวิชาชีพครูมีความรูความสามารถและทักษะที่ใชในการประกอบวิชาชีพครูหรือที่เรียกวาวิชาครูหรือวิชาการศึกษา
ซึ่งไดแก วิชาการจัดกระบวนการเรียนรูการจัดการเรียนการสอน
การจัดหลักสูตรการผลิตและการใชสื่อทางการศึกษาเปนตน
๓.
ความรูเกี่ยวกับเนื้อหาวิชา เปนความรูเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของวิชาที่ตองการใหผูเรียนไดรูเช่น
ความรูดานคณิตศาสตรวิทยาศาสตรภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา เปนตน
มาตรฐานดานที่
๒ ของมาตรฐานวิชาชีพครูไดแก มาตรฐานดานการปฏิบัติงาน
ซึ่งมาตรฐานการปฏิบัติงานเปนขอกําหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะการปฏิบัติหนาที่ของผูประกอบวิชาชีพครูซึ่งเปนพฤติกรรมที่เกิดจากคุณภาพภายในตัวครูมีลักษณะเฉพาะสําหรับผูที่ทําหนาที่ครูเทนั้น
เปนทักษะทางวิชาชีพครูที่แสดงถึงคุณภาพ และมาตรฐานการปฏิบัติงานของผูประกอบวิชาชีพครูการกําหนดเกณฑมาตรฐานวิชาชีพครูคุรุสภาไดจัดทําขึ้นบนพื้นฐานความเชื่อที่ว่าเด็กทุกคนสามารเรียนรูไดครูตองคํานึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับผูเรียนเปนสําคัญ
ในการจัดการเรียนการสอน ครูสามารถเลือกวิธีสอนใหเหมาะสมกับพัฒนาการของผูเรียนและสภาพแวดลอม
เมื่อสอนไปแลวครูตองตรวจสอบแกไขปรับปรุง และชื่นชมตอความสําเร็จของผูเรียน
หลักเกณฑสําคัญของเกณฑมาตรฐานวิชาชีพครูการจัดทําเกณฑมาตรฐานวิชาชีพครูมีจุดมุงหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
และพัฒนาสังคมในอนาคต เกณฑมาตรฐานวิชาชีพครูจึงเปนการกําหนดลักษณะการแสดงพฤติกรรมของครูที่จะนําไปสูผลสําเร็จของนักเรียน
โดยหลักการสําคัญ คือ
๑. อาชีพครูเปนอาชีพชั้นสูง
ในวิถีชีวิตครูตองพัฒนาตน พัฒนางานและวิชาชีพครูอยูเสมอ
มีการประเมินและปรับปรุงการปฏิบัติงาน รวมทั้งพัฒนาผลการปฏิบัติงานใหดีขึ้นและมีคุณภาพสูงขึ้นเสมอ
ตองปฏิบัติเปนแบบอยางที่ดีปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครูอยางเครงครัดใหเปนที่ยอมรับของนักเรียน
เพื่อนรวมงาน และบุคคลอื่น รวมทั้งตองเนนการปฏิบัติงาน
ปฏิบัติตนที่มุงประโยชนของสังคมสวนรวม เป็นสําคัญ
๒. การเรียนรูที่พึงปรารถนาของผูเรียน
โดยผูเรียนสรางความรูคนหา คนพบคําตอบบดวยตนเอง ผานกระบวนการเรียนการสอนที่เนนการปฏิบัติจริงอยางงายๆ
ไมซับซอนไปสูขั้นตอนที่ยากและซับซอนมากขึ้น ครูมีบทบาทเปนผูวางแผนกําหนดแนวทางการปฏิบัติกิจกรรมใหผูเรียนทําเอง
ประเมินผลการปฏิบัติของผูเรียน ใหขอมูลยอนกลับเทาที่จําเปน เสริมสรางกําลังใจจัดสถานการณการเรียนใหมๆ
ที่มีความทาทายตอการเรียนรูของผูเรียนเพิ่มขึ้น
๓. เสนทางพัฒนาวิชาชีพครูเปนลักษณะคุณภาพหรือความสามารถของครูที่จัดเรียงลําดับต่อเนื่องกัน
แสดงใหเห็นการพัฒนาการทางวิชาชีพครูอยางเปนระบบ เริ่มตั้งแตครูเชื่อวาผูเรียนทุกคนเรียนรูไดกําหนดจุดพัฒนาผูเรียนได
เลือกวิธีพัฒนาไดอยางเหมาะสม ลงมือปฏิบัติใหเกิดผลจริง ตรวจสอบ
ปรับปรุงการปฏิบัติอยูเสมอ และภาคภูมิใจในผลการพัฒนาที่บรรลุเปาหมาย
มาตรฐานดานที่ ๓
ของมาตรฐานวิชาชีพครูไดแก มาตรฐานดานการปฏิบัติตน
โดยยึดหลักจรรยาบรรณวิชาชีพครูสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ไดประกาศใชเกณฑมาตรฐานวิชาชีพครูเพื่อเปนแนวทางปฏิบัติตน
จํานวน ๑๒ มาตรฐาน ดังนี้
มาตรฐานที่
๑ ปฏิบัติกิจกรรมทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ
และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ
มาตรฐานที่ ๒
ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมตางๆโดยคํานึงถึงผลที่จะเกิดกับผูเรียน
มาตรฐานที่ ๓ มุงมั่นพัฒนาผูเรียนใหเต็มศักยภาพ
มาตรฐานที่ ๔ พัฒนาแผนการสอนใหสามารถปฏิบัติไดเกิดผลจริง
มาตรฐานที่ ๕
พัฒนาสื่อการเรียนการสอนใหมีประสิทธิภาพอยูเสมอ
มาตรฐานที่ ๖
จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเนนผลถาวรที่เกิดกับผูเรียน
มาตรฐานที่ ๗
รายงานผลการพัฒนาคุณภาพของผูเรียนไดอยางมีระบบ
มาตรฐานที่ ๘ ปฏิบัติตนเปนแบบอยางที่ดีแกผูเรียน
มาตรฐานที่ ๙ รวมมือกับผูอื่นในสถานศึกษาอยางสรางสรรค
มาตรฐานที่ ๑๐ รวมมือกับผูอื่นอยางสรางสรรคในชุมชน
มาตรฐานที่ ๑๑ แสวงหาและ ใชขอมูลขาวสารในการพัฒนา
มาตรฐานที่ ๑๒ สรางโอกาสใหผูเรียนไดเรียนรูในทุกสถานการณ
๑. ตั้งใจถ่ายทอดวิชาการ
บทบาทของครูต้องพยายามที่จะทำให้ลูกศิษย์เรียนด้วยความสุข เรียนด้วยความเข้าใจ
และเกิดความมานะพยายามที่จะรู้ในศาสตร์นั้น
ครูจึงต้องตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะศึกษาวิชาการทั้งทางศาสตร์ที่จะสอน
ศาสตร์ที่จะถ่ายทอดหรือวิธีการสอน ครูต้องพยายามที่จะหาวิธีการใหม่ ๆ
มาลองทดลองสอน
๒. รักและเข้าใจศิษย์
ครูต้องพยายามศึกษาธรรมชาติของวัยรุ่น ว่ามีปัญหามีความไวต่อความรู้สึก (sensitve) และอารมณ์ไม่มั่นคง ครูจึงควรให้อภัย เข้าใจ
และหาวิธีการให้ศิษย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ครูต้องพยายามทำให้ลูกศิษย์รักและไว้ใจเพื่อที่จะได้กล้าปรึกษาในสิ่งต่างๆแล้วครูก็จะสามารถช่วยให้ศิษย์ประสบความสำเร็จในการเรียน
และการดำรงชีวิตได้อย่างถูกต้อง
๓.
ส่งเสริมการเรียนรู้ปัจจุบันการส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเองหรือการเรียนรู้จากการช่วยเหลือกันในกลุ่มอาจจะทำให้ผู้เรียนมีวิธีการหาความรู้จากแหล่งต่าง
ๆ ด้วยตนเองมากขึ้นมากกว่าจะคอยให้ครูบอกให้แต่ฝ่ายเดียว
ครูจึงจำเป็นต้องชี้ช่องทางให้ผู้เรียนหาวิธีการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองมากขึ้น
๔. ยุติธรรม
อาชีพครูเป็นอาชีพที่จะต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนซื่อสัตย์ ยุติธรรม
ไม่มีอคติลำเอียงต่อลูกศิษย์ ไม่เห็นว่าคนที่มีปัญหาเป็นคนน่ารังเกียจ
หรือพอใจแต่เฉพาะศิษย์ที่เรียนเก่ง ไม่สร้างปัญหาเท่านั้น
ครูต้องมีความเป็นธรรมในการให้คะแนน และพร้อมที่จะอธิบายวิธีการให้คะแนน
และการตัดเกรดได้ ครูต้องรอบคอบในการรอกคะแนน เพราะถ้าผิดพลาดแล้วบางครั้งก็จะทำให้ผู้เรียนที่ควรได้คะแนนดี
ๆ กลับได้คะแนนเกือบจะสอบตกไป
๕. ไม่แสวงหาประโยชน์จากผู้เรียน
ลักษณะของครูจะต้องเป็นผู้ไม่แสวงหาอามิสสินจ้าง
เงินไม่ใช่สิ่งที่สร้างความสุขเสมอไป
ครูจึงจะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษในการกระทำใด ๆ อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจได้ว่า
ครูกำลังหาประโยชน์จากศิษย์อย่างไม่เป็นธรรม
๖. ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี
ครูมีอิทธิพลต่อศิษย์ทั้งด้านวาจา ความคิด บุคลิกภาพ และความประพฤติ
ครูจึงจะต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ซึมซับสิ่งที่ทำจากตัวครูไป
เมื่อศิษย์เกิดศรัทธาในความสามารถของครู
ศิษย์อาจจะเลียนแบบความประพฤติของครูไปอย่างไม่ได้เจตนา เช่น การตรงต่อเวลา
การพูดจาชัดเจน การแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา สุภาพเรียบร้อย เป็นต้น
๗.
ให้เกียรติผู้เรียน การยกย่องให้เกียรติผู้เรียน
ทำให้ผู้เรียนเกิดความพึงพอใจ และเกรงใจผู้สอน ครูไม่ควรใช้อำนาจในทางที่ผิด
เช่น พูดจาข่มขู่ ใช้คำพูดไม่สุภาพ เปลี่ยนชื่อผู้เรียน เยาะหยันหรือดูถูกผู้เรียน
การเคารพผู้เรียนในฐานะปัจเจกบุคคลเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจ
และการเรียนรู้ที่ดี เมื่อผู้เรียนได้รับการปฏิบัติอย่างดี ย่อมก่อให้เกิดพลังในการศึกษาต่อไป
๘.
อบรมบ่มนิสัย ม.ล. ปิ่น มาลากุล
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูมีบทบาทหน้าที่ในการอบรมบ่มนิสัยเด็ก
โดยท่านเชื่อว่า “การอบรมบ่มนิสัยใคร ๆนั้นเพียงแค่วันละนาทีก็ดีถม” ดังนั้นครูควรแบ่งเวลาในการอบรมบ่มนิสัยผู้เรียน
เช่น ก่อนการสอนแต่ละชั่วโมงอาจชี้แนะหรือให้ความคิดที่ดีแก่ผู้เรียนได้
ครูควรถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องสอนคนให้เป็นคนดี
๙.
ช่วยเหลือศิษย์ผู้เรียนมาอยู่ในสถานศึกษาพร้อมด้วยประสบการณ์และปัญหาที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นครูจึงมีหน้าที่ที่จะต้องสังเกตความผิดปกติหรือข้อบกพร่องของศิษย์
และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
ไม่ให้ศิษย์ต้องก้าวถลำลึกลงไปในพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
๕. การพัฒนาวิชาชีพของครู
การสงเสริมและการพัฒนาวิชาชีพครูนั้นตองมุงที่ตัวครูเปนสําคัญ
ครูที่ดียอมชวยใหสังคมดีขึ้นทุกๆ ดาน ครูจึงตองมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนใหสอดคลองกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกไดอยางมีคุณภาพ[๑๖]
ดังนั้นการพัฒนาวิชาชีพของครูใหเจริญกาวหนานําสมัยและทันตอเหตุการณจึงมีความจําเป็นอยางยิ่ง
นคร พันธุณรงค[๑๗]
กลาวถึงแนวความคิดในการพัฒนาวิชาชีพครูดังนี้
๑.
คุณภาพของผลผลิตและประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต เปนเครื่องชี้ความสำเร็จของวิชาชีพ
๒.
การพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต โดยการพัฒนางานในภาวะปกติอย่างตอเนื่องและสม่ำเสมอจะสงผลต่อคุณภาพของผลผลิตไดตามเปาหมาย
๓. การพัฒนางานที่เปนการพัฒนาวิชาชีพอยางตอเนื่อง
ผูปฏิบัติงานจําเปนตองเรียนรูหลักการ วิธีการและองคความรูใหมๆในงานอาชีพ
และนํามาใชในงานเพื่อคนหาความรูสรางความรูใหมในวิชาชีพของตนเองอยางตอเนื่อง
๔. ครูที่สามารถพัฒนาคุณภาพผูเรียนใหสูงขึ้นอยางตอเนื่องและ
เปนไปตามมาตรฐานควรไดรับผลตอบแทนสอดคลองกับระดับมาตรฐานคุณภาพงานที่ปฏิบัติ
๕. การพัฒนาวิชาชีพครูเปนการปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางานของครูทุกคน
เพื่อสรางผลผลิตใหมีคุณภาพสูงขึ้นอยูเสมอ
แผนการศึกษาแหงชาติพ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๕๙ ไดกําหนดแนวทางการพัฒนาครูไวดังนี้[๑๘]
๑. การปรับปรุงกระบวนการผลิต
พัฒนาและเสริมสรางแรงจูงใจใหแกครูคณาจารยและบุคลากรทางการศึกษาทุกระดับ
เพื่อใหวิชาชีพครูเปนวิชาชีพชั้นสูง
๒. การทบทวนกระบวนการที่เกี่ยวกับครูทั้งหมดในเรื่ององคกรวิชาชีพครูผูบริหารการศึกษาและองคกรกลางบริหารงานบุคคลของขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ระบบเงินเดือน คาตอบแทน สวัสดิการและสิทธิประโยชนเกื้อกูล และระบบการสงเสริมขวัญและกําลังใจ
๓. การสงเสริมการผลิตและการพัฒนาบุคลากรใหสอดคลองกับผูเรียนแตละกลุมโดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีความตองการพิเศษ
๔.
การพัฒนามาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
การพัฒนาครูมีความจําเปนมากในศตวรรษที่
๒๑ ซึ่งเปนยุคโลกาภิวัฒนดังที่เดอลอรสและคนอื่นๆ (Delors;
others)[๑๙]
ไดใหแนวคิดในการพัฒนาครูไวดังนี้
๑. การสรรหาผูเขาเรียนวิชาชีพครู
(Recruitment)
ควรมีการคัดเลือกและสรรหาผูเขาเรียนครูที่มีคุณลักษณะที่เหมาะสมเพื่อเขามาศึกษาเลาเรียนสาขาครุศาสตรสวนการบรรจุเขาสูตําแหนงก็ควรมีมาตรการพิเศษในการคัดเลือก
๒. การจัดการศึกษาสําหรับผูประกอบวิชาชีพครูควรจัดถึงระดับปริญญาตรีเปนขั้นตน
ซึ่งในอนาคตครูตองมีบทบาทเปนผูอํานวยความสะดวกเพื่อการเรียนรูการพัฒนาบุคลิกภาพของเยาวชนและการสงเสริมการเรียนรูสําหรับผูเรียน
การจัดการศึกษาสําหรับครูจึงตองเปนกระบวนการเดียวกันทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
๓. การอบรมครูประจําการ (In-service
training) ตองเปดโอกาสใหครูที่ประจําการแลวไดรับการอบรมความรูใหมๆ
อยูเสมอ โดยเฉพาะการอบรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาจใชระบบการศึกษาทางไกลเพื่อประหยัดคาใชจายเวลาและความสะดวก
๔. การพัฒนาผูสอนในสถาบันฝกหัดครู
(Teacher
education) ควรปรับปรุงทักษะของคณาจารยในสถาบันฝกหัดครูทั้งหลาย
ตลอดจนการสรรหาผูทรงคุณวุฒิจากชุมชนมารวมผลิตครูยอมพัฒนาระบบผลิตครูใหสอดคลองกับความตองการของชุมชน
และ ชวยใหการผลิตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
๕. การนิเทศ (Supervisors) ชวยใหการควบคุม การตรวจสอบ และการปรับปรุงการปฏิบัติงานของครูเปนระบบ
ทําใหครูไดรับทราบเกี่ยวกับการพัฒนาดานตางๆ ที่เกี่ยวของกับอาชีพครูเชน
ความรูใหมๆวิธีการสอน แหลงขอมูล การตรวจสอบ ตลอดจนการวัดผลการเรียนรูที่นักเรียนไดรับจากการศึกษาดวยการนิเทศตองทําอยางตอเนื่อง
และสม่ำเสมอ
๖. การจัดการ (Management) ตองปฏิรูปการจัดการศึกษาของสถานศึกษาตางๆโดยสงเสริมใหแตละแหงมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพในการดําเนินงาน
การทํางานตลอดจนการกําหนดปริมาณของครูตองสงเสริมใหครูไดทํางานอยางเต็มศักยภาพ
๗. การเปดโอกาสใหชุมชนมีสวนรวมในการปฏิบัติงานของครู
(Participation
bypeople from quest the teaching profession) เปนการชวยใหการปฏิบัติภารกิจของครูมีคุณภาพและ
เปนผูรวมตรวจสอบการทํางานของครู
๘. ดานสภาพการปฏิบัติงาน (Conditions of
work) ในสภาพการทํางานจะตองให
ความสนใจในการโนมนาวใจครูผูสอน
ธีรศักดิ์ อัครบวร[๒๐]
(๒๕๔๔ : ๓๗-๓๙) ไดกลาวถึงแนวทางในการพัฒนาคุณภาพครูวิชาชีพใน
ศตวรรษที่ ๒๑
ในประเทศตางๆไวดังนี้
๑. การสรรหาผูเขาเรียนวิชาครู (Recruitment) ควรมีการคัดเลือก สรรหาผูเขาเรียนที่มีคุณลักษณะที่เหมาะสมจํานวนมากพอเขามาศึกษาเลาเรียนสาขาครุศาสตรสวนการบรรจุเขาสูตําแหนงก็ควรมีมาตรการพิเศษในการคัดเลือก
๒. การศึกษาเบื้องตนในสถาบันฝกหัดครู
(Initial
education) การจัดการศึกษาสําหรับผูประกอบวิชาชีพครูควรจัดถึงระดับปริญญาตรีเปนขั้นตน
ในอนาคตครูตองมีบทบาทเปนผูอํานวยความสะดวก เพื่อการเรียนรูพัฒนาบุคลิกภาพเยาวชนและ
สงเสริมการเรียนรูสําหรับผูเรียนการจัดการศึกษาเบื้องตนสําหรับครูจึงตองทั่วถึง
เปนกระบวนการเดียวกันทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
๓. การอบรมครูประจําการ (In service
training) ตองเปดโอกาสใหครูที่ประจําการแลวไดรับการอบรมความรูใหมๆอยูเสมอโดยเฉพาะดานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาจใชระบบการศึกษาทางไกลเพื่อประหยัดคาใชจายเวลาและเพื่อความสะดวก
๔. พัฒนาผูสอนในสถาบันฝกหัดครู (Teacher
educators) การปรับปรุงทักษะของคณาจารยในสถาบันฝกหัดครูทั้งหลาย
ตลอดจนการสรรหาผูทรงคุณวุฒิจากชุมชนมาชวยรวมผลิตครูยอมพัฒนาระบบผลิตครูใหสอดคลองกับความตองการของชุมชน
และ ชวยใหการผลิตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นดวย
๕. การนิเทศ (Supervisors) การควบคุม การตรวจสอบและการปรับปรุง การปฏิบัติงานของครูอยางเปนระบบ ชวยใหครูไดรับทราบเกี่ยวกับพัฒนาการดานตางๆ
ที่เกี่ยวของกับวิชาชีพครูเชน เรื่องความรูใหมๆ วิธีการสอน แหลงขอมูลการตรวจสอบ
รวมถึงการวัดผลการเรียนรูที่นักเรียนไดรับจากการจัดการศึกษาและการนิเทศตองทําอยางตอเนื่องสม่ำเสมอ
๖. การจัดการ (Management) การจัดการสถานศึกษาในสถานตางๆ โดยสงเสริมใหสถานศึกษาแตละแหงมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพในการดําเนินงาน
การปฏิบัติงานตลอดจนการกําหนดปริมาณงานของครูตองสงเสริมใหครูไดทํางานเต็มศักยภาพดวย
๗. สภาพการปฏิบัติงาน (Conditions of
work) ในสภาพการทํางานจะตองใหความสนใจในการโนมนาวใจครูใหปฏิบัติงานตอไปโดยไมละทิ้งอาชีพ
ทั้งอัตราเงินเดือนและสิทธิประโยชนตลอดจนสภาพอื่นๆในการทํางานจะตองดีพอเมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพอื่นๆ
๘. อุปกรณการสอน (Teaching
materials) การฝกหัดครูและการสอนในโรงเรียนนั้นจําเปนตองใชอุปกรณการสอน
โดยเฉพาะอยางยิ่งแบบเรียนทั้งจะตองปรับปรุงหลักสูตรอยางเสมอโดยใหครูมีสวนรวมทั้งในขั้นวางแผนและขั้นดําเนินการ
ในการใชเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนําเสนอความรูใหมๆ
การสอนทักษะและวิธีการประเมินผลความกาวหนาของนักเรียน ซึ่งจะชวยใหนักเรียนไดเรียนรูไดอยางมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
๖. แนวทางการพัฒนาวิชาชีพครู
การศึกษาตามนัยแห่ง พ.ร.บ.
การศึกษาแห่งชาติปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่กำหนดว่าระบบ และ
กระบวนการผลิตพัฒนาครูจะต้องปรับเปลี่ยนให้ได้ครูที่มีศักยภาพ คุณภาพสมกับเป็น
วิชาชีพชั้นสูง จึงได้มีการผลิตครูระบบใหม่เกิดขึ้น ออกแบบหลักสูตรเป็น ๕ ปี
ซึ่งหลายคน ก็เรียกว่า "ครูห้าปี"
เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู สังคมและใน
วงวิชาการต่างคาดหวังว่า "ครูห้าปี"
จะเป็นสายเลือดใหม่และผู้นำทางการศึกษารุ่นใหม่ ที่จะมากู้วิกฤตศรัทธาในวิชาชีพครู
มาเป็นอัศวินม้าขาวในการปฏิรูปการศึกษา จึงมีคำถาม มากมายว่า
"ครูพันธุ์ใหม่" หรือ "ครูยุคใหม่" เป็นอย่างไร
แตกต่างจากครูยุคก่อนๆ อย่างไรจากการที่ได้รวบรวมแนวคิด การทำวิจัย
การประกาศหลักการของประเทศต่าง ๆ
ดร.พลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง[๒๑] กล่าวว่า การประชุมสัมมนา
รวมทั้งการสำรวจแล้วจัดทำคุณลักษณะครูยุคใหม่ที่คาดหวัง ครูเลือดใหม่-
ครูพันธุ์ใหม่ น่าจะมีภาพลักษณ์ คุณลักษณ์ ที่สะท้อนมาจากหลักการ (Principle) ๑๐ ประการ ซึ่งน่าจะใช้เป็นมาตรฐานการผลิตและพัฒนาครูใหม่ - ครูเก่าที่
อยู่ในระหว่างการพัฒนาได้ ประกอบด้วย ๑๐ หลักการ คือ
หลักการที่ ๑
ครูพันธุ์ใหม่มีความเข้าใจในเรื่องของแนวคิดหลักแห่งวิชาชีพ ครู
มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของเครื่องมือที่จะใช้สำหรับการแสวงหาความรู้ การสอบ
ถาม มีความเข้าใจในโครงสร้างของสาขาวิชาที่ตนเป็นผู้สอน และสามารถสร้างสรรค์
ประสบการณ์ในการเรียนรู้ที่จะช่วยส่งเสริมให้เนื้อหาวิชาเหล่านั้นเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้
เรียน
หลักการที่ ๒ ครูพันธุ์ใหม่มีความเข้าใจในเรื่องของการเรียนรู้และพัฒนาของเด็ก
รู้จักสร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นเพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสติปัญญาสังคม
และพัฒนาการส่วนบุคคล
หลักการที่ ๓
ครูพันธุ์ใหม่มีความเข้าใจถึงความแตกต่างในการเรียนรู้ของเด็ก
และสามารถสร้างสรรค์โอกาสในการจัดการเรียนการสอนที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับผู้เรียน
ที่หลากหลายได้
หลักการที่ ๔ :
ครูพันธุ์ใหม่มีความเข้าใจและรู้จักใช้ยุทธวิธีที่หลากหลาย ในการสอน
เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล สามารถแก้ไขปัญหาและมีทักษะ
ในเชิงปฏิบัติ
หลักการที่ ๕
ครูพันธุ์ใหม่ใช้ความเข้าใจในตัวเด็กแต่ละบุคคล รวมทั้งการใช้ทั้ง
แรงจูงใจและพฤติกรรมของกลุ่มมาสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้เกิด ปฎิสัมพันธ์
ทางสังคมในเชิงสร้างสรรค์
มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในการเรียนรู้และการสร้างแรงจูงใจ ในตัวของผู้เรียน
หลังการที่ ๖
ครูพันธุ์ใหม่รู้จักเลือกใช้ถ้อยคำที่ก่อให้เกิดผล สามารถใช้ กับอากัปกิริยาท่าที
รวมทั้งเทคนิควิธีการสื่อความหมายที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กรู้จักถาม รู้จัก แสวงหาความรู้
ตลอดทั้งรู้จักสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือและปฏิสัมพันธ์ในห้องเรียน
อย่างสร้างสรรค์
หลักการที่ ๗
ครูพันธุ์ใหม่รู้จักวางแผนการสอนให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชา ความ
ต้องการของชุมชนและเป้าหมายของหลักสูตร
หลักการที่ ๘
ครูพันธุ์ใหม่มีความเข้าใจและใช้ยุทธวิธีการประเมินผลในรูปแบบ
ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
เพื่อประเมินสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นว่าผู้เรียนจะ
ได้รับการพัฒนาทั้งทางสติปัญญา สังคม และร่างกายอย่างต่อเนื่อง
หลักการที่ ๙
ครูพันธุ์ใหม่จะต้องเป็นนักปฏิบัติการที่มีความถี่ถ้วน รู้จักที่จะ
ประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเองและบุคคลอื่นอย่างต่อเนื่อง (นักเรียน พ่อแม่
ผู้ปกครอง และผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ ในชุมชนการเรียนรู้) พร้อมทั้งหาโอกาสที่จะสร้าง
ความก้าวหน้าทางวิชาชีพของตนให้เกิดขึ้น
หลักการที่ ๑๐
ครูพันธุ์ใหม่จะต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานในโรงเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง
และหน่วยงานต่างๆ ในชุมชนขนาดใหญ่ (ชุมชนที่มีเครือข่ายมาก)
เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเด็ก
ดิเรก พรสีมา[๒๒] ได้กล่าวว่า
ประเทศไทยมีความพยายามในการแก้ปัญหาวิชาชีพครู
โดยกำหนดไว้ทั้งแนวนโยบายของรัฐบาลกำหนดไว้ในแผนงานสำคัญระดับชาติ
ทั้งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ
และแผนพัฒนาการศึกษาทุกฉบับ รวมทั้งกำหนดเป็นพระราชบัญญัติเพื่อจัดตั้งองค์กรที่ดูแลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการของครูและพระราบัญญัติเพื่อจัดตั้งองค์กรที่ดูแลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการของครูและพระราชบัญญัติเพื่อการจัดตั้งองค์กรการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู
และมีมติคณะรัฐมนตรีเพื่อตั้งหน่วยงานดูแลการปฏิรูปการฝึกหัดครูโดยเฉพาะ
แต่เนื่องจากปัญหาด้านวิชาชีพครูเป็นปัญหาที่ได้รับการสั่งสมมานาน
การแก้ปัญหาคงต้องอาศัยระยะเวลาและความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย
ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารในระดับประเทศ
ซึ่งเป็นผู้วางนโยบายและกำหนดทิศทางในการดำเนินงาน
ประกอบกับระบบการบริหารทางการศึกษาต้องเอื้อให้ครูและผู้ได้รับผลจากวิชาชีพครูโดยตรง
ซึ่งก็คือ ประชากรของประเทศ ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและกำหนดให้รัฐต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นพึ่งตนเองและตัดสินใจในกิจการท้องถิ่นได้เอง
วิชิตวงศ์ ณ
ป้อมเพชร[๒๓] กล่าวว่า
แผนการพัฒนาสำคัญที่กำหนดทิศทางการดำเนินงานในระดับชาติดังกล่าวถึงความสำคัญในการพัฒนาวิชาชีพครูเพื่อพัฒนากำลังคนของชาติ
ทั้งทางด้านการพัฒนาระบบและกลไกในการเลือกสรรบุคคลเข้าเรียนครู
การพัฒนากระบวนการฝึกหัดครู
การสร้างจิตสำนึกให้ครูมีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง
การส่งเสริมขวัญกำลังใจและความมั่นคงในการประกอบอาชีพครู
การส่งเสริมให้ครูมีบทบาทเป็นผู้นำทางความคิดและประสานความร่วมมือในการพัฒนาชุมชน
การส่งเสริมให้ครูเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องทั่วถึงและทันการณ์
รวมทั้งการส่งเสริมให้ครูมีใบประกอบวิชาชีพ
กล่าวได้ว่าแนวทางต่าง ๆ
ที่เป็นมาตรการเร่งด่วนในการปฏิรูปครูยุคใหม่ในทศวรรษที่สองนี้จะเป็นยุทธศาสตร์การทำงานเชิงระบบที่มุ่งเน้นการพัฒนาตั้งแต่ระบบการผลิตครูก่อนประจำการ
การพัฒนาครูประจำการ รวมทั้งการสร้างความมั่นคงในวิชาชีพ
สรุป
จรรณยาบรรณ
เป็นหลักสำคัญในการปฏิบัติที่ได้ประมวลมาเป็นที่เรียบร้อย
เพื่อรักษาไว้ในความรับผิดชอบ อาชีพของตน โดยผ่านการคัดสรรค์จากสังคม เพื่อผดุงเกียรติและสถานะของวิชาชีพนั้นก็ได้ผู้กระทำผิดจรรยาบรรณ จะต้องได้รับโทษโดยว่ากล่าว
ตักเตือน ถูกพักงาน หรือถูกยกเลิกใบประกอบวิชาชีพได้
จรรณยาบรรณครูที่พึงประพฤติปฏิบัติต่อผู้เรียน
นั้นคือการตั้งใจถ่ายทอดวิชาการ
บทบาทของครูต้องพยายามที่จะทำให้ลูกศิษย์เรียนด้วยความสุข รักและเข้าใจศิษย์
ครูต้องพยายามศึกษาธรรมชาติของวัยรุ่น ว่ามีปัญหามีความไวต่อความรู้สึก ส่งเสริมการเรียนรู้ปัจจุบันการส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเอง
ยุติธรรม อาชีพครูเป็นอาชีพที่จะต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนซื่อสัตย์ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อผู้เรียน
มิใช่ตนเองเป็นหลักสำคัญ
จรรยาบรรณของครูไว ๙ ประการ ดังนี้
๑. ครู ตองรักเมตตา
โดยใหความเอาใจใสและ ชวยเหลือ สงเสริม ใหกําลังใจ ในการศึกษาเลาเรียนแกศิษยโดยเสมอหนา
๒. ครูตองอบรม
สั่งสอน ฝกฝน สรางเสริมความรูทักษะ และนิสัยที่ถูกตองดีงามใหเกิดแกศิษยอยางเต็มที่ความสามารถดวยความบริสุทธิ์ใจ
๓. ครูตองประพฤติปฏิบัติตนเปนแบบอยางที่ดีแกศิษยทั้งกายวาจา
และจิตใจ
๔. ครูตองไมกระทําตนเปนปฏิปกษตอความเจริญทางกาย
สติปญญา จิตใจอารมณและสังคมของศิษย
๕. ครูตองไมแสวงหาประโยชนอันเปนอามิสสินจางจากศิษยในการปฏิบัติหนาที่ตามปกติและ
ไม่ใหศิษยกระทําการใดๆ อันเปนประโยชนใหแกตนโดยมิชอบ
๖. ครูยอมพัฒนาทั้งในด้านวิชาชีพ
ดานบุคลิกภาพ และวิสัยทัศนใหทนต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม
และการเมืองอยูเสมอ
๗. ครูยอมรักและศรัทธาในวิชาชีพครูและ
เปนสมาชิกที่ดีขององคกรวิชาชีพครู
๘. ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสรางสรรค
๙.
ครูพึงประพฤติปฏิบัติตน เปนผู้นำในการอนุรักษและ พัฒนาภูมิปญญาและวัฒนธรรมไทย
มาตรฐานดานความรูและประสบการณวิชาชีพ เปนคุณลักษณะดานความรูความสามารถ
และทักษะเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ ซึ่งจะตองไดรับการศึกษาและฝึกประสบการณวิชาชีพครูจากสถาบันผลิตครูมาก่อน
และถือว่าเปนคุณลักษณะเบื้องตนที่จะไดรับสิทธิในการประกอบวิชาชีพครูเกณฑมาตรฐานดาน
ความรูของผูที่จะประกอบวิชาชีพครูครูจะตองมีความรูไมต่ำกว่าระดับปริญญาตรีทางการศึกษา
โดยคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษานี้จะตองเปนปริญญาที่องคกรวิชาชีพครูใหการรับรอง
การไดรับคุณวุฒิเปนหลักประกันวาเปนผูมีความรูและความสามารถที่ไดรับจากการศึกษาในสถาบันผลิตครูนี้อยางนอยจะตองประกอบดวยความรูสําคัญ
๓ ดานคือ
๑. ความรูพื้นฐานที่จะทําใหผูประกอบวิชาชีพครูเปนคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมและเขาใจวัฒนธรรมประเพณีไทย
ตลอดจนรูเทาทันการเปลี่ยนแปลงของโลก
๒. ความรูเกี่ยวกับวิชาชีพครูมีความรูความสามารถและทักษะที่ใชในการประกอบวิชาชีพครูหรือที่เรียกวาวิชาครูหรือวิชาการศึกษา
ซึ่งไดแก วิชาการจัดกระบวนการเรียนรูการจัดการเรียนการสอน
การจัดหลักสูตรการผลิตและการใชสื่อทางการศึกษาเปนตน
๓. ความรูเกี่ยวกับเนื้อหาวิชา
เปนความรูเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของวิชาที่ตองการใหผูเรียนไดรูเช่น ความรูดานคณิตศาสตรวิทยาศาสตรภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา เปนตน
ผูประกอบอาชีพทุกอาชีพจะ ตองมีระเบียบวิธีการปฏิบัติเปน
ลักษณะเฉพาะของตนเอง ซึ่งระเบียบหรือแนวปฏิบัตินั้นจะ ตองสอดคลองกับศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของสังคม
นั่นก็คือ ทุกคนทุกอาชีพจะ ต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณแหงวิชาชีพของตน
มาตรฐานวิชาชีพครูก็คือ
ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ และคุณภาพที่พึงประสงค์ที่ตองการให้เกิดขึ้นในการประกอบวิชาชีพครูซึ่ง
ครูใชเปนเกณฑ์ในการปฏิบัติงานมาตรฐานวิชาชีพ
ครูจึงมีลักษณะเฉพาะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจัดการเรียนการสอน และมีความแตกตางจากลักษณะเฉพาะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานจัดการเรียนการสอน
และมีความแตกตาง จากลักษณะของการประกอบวิชาชีพอื่น ทั้งนี้มาตรฐานวิชาชีพครูจะเปนหลักเกณฑการปฏิบัติงานของครูเพื่อนําไปสูการพัฒนาครูและการพัฒนาการเรียนการสอน
การพัฒนาเด็ก และพัฒนาสังคมประเทศชาติใหมีความเจริญกาวหนาและ มีความสุข
ดังนั้น แนวทางจรรยาบรรณในวิชาชีพครูที่พึงประสงค์
เป็นสิ่งที่ว่าด้วย การสร้างสังคมการเรียนรู้ โดยครูเป็นเพียงผู้แนะนำ
มิใช่เป็นผู้สอน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์และองค์ความรู้ที่เด็กได้เป็นสำคัญ
บรรณานุกรม
ไกรนุช
ศิริพลู. ความเป็นครู Self – Actualization
for Teachers. กรุงเทพมหานคร,
๒๕๓๑.
คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๕๙). แหล่งที่มา : http://www.onec.go.th /publication/s_fullplan/fullplan.pdf.
ค้นหา วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘.
ดร.พลสัณห์
โพธิ์ศรีทอง. คุณลักษณะ ครูพันธุ์ใหม่. หนังสือพิมพ์มติชน: วันที่ ๔
กรกฎาคม ๒๕๔๗.
ดิเรก พรสีมา, คุรุสภา
เปลี่ยนกฎใหม่ขอใบ “แม่พิมพ์” ขู่ครูเมินผิดแพ่ง-อาญา,
ASTVผู้จัดการออนไลน์, ๑๐ กันยายน ๒๕๕๓ ๐๐:๒๑ น. ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
ทัศนีย์ บัวคำ, วิชาชีพสาธารณสุข, กรุงเทพมหานคร : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๕๔๑.
ธัญญาภรณ์ สมบูรณ์.
คุณลักษณะของครูที่ดีตามความคิดเห็นของนักเรียนโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา
เขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๓. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์ มหาบัณฑิต
(กาบริหารการศึกษา). กรุงเทพมหานคร:
มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี. ๒๕๔๔.
นคร พันธุณรงค์. การพัฒนาวิชาชีพครู
: สาระสำคัญที่ควรทราบ. เชียงใหม่: โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย. ๒๕๕๓.
บวร ทองยัง. จรรยาบรรณครูของครูสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี
โดยการรับรู้ของเพื่อนครูและกรรมการโรงเรียน. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต.
สาขาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยบูรพา. ๒๕๔๓.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ วิชาชีพและข้อกำหนด.(พ.ศ. ๒๕๔๒). แหล่งที่มา : http://www.moe.go.th/
edtechfund/fund.
ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
พิบูลย กระแสสุข. การส่งเสริมพฤติกรรมครูตามจรรยาบรรณในโรงเรียน
สังกัดสานักงานประถมศึกษาอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่.วิทยานิพนธ์ ศศ.ม.
(การบริหารการศึกษา).เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ๒๕๔๒.
พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์. จรรยาบรรณวิชาชีพครู. แหล่งที่มา
; http://www.edu.chula.ac.th/knowledge/rule/ adm-rule.htm. ค้นหา วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘.
ยนต์
ชุ่มจิต. ความเป็นครู. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์. ๒๕๓๔.
ราชบัณฑิตยสถาน.
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน กรุงเทพมหานคร
: อักษรเจริญทัศน์, ๒๕๓๙.
วิชิตวงศ์
ณ ป้อมเพชร, ยุทธศาสตร์เชิงเศรษฐกิจ-เทคโนโลยีในการพัฒนาไทยให้เป็นประเทศอุตสาหกรรม,บทความ, แหล่งที่มา;
http://www.royin.go.th/upload/knowledge/htmlfiles/care-1359-5509.html/, ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
Teacher Professional Development. จรรยาบรรณในวิชาชีพครู.
แหล่งที่มา ; https://educ105.wordpress.com /จรรยาบรรณในวิชาชีพครู/, ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
สํานักเลขาธิการคุรุสภา ฝ่ายวิจัย
กองวิชาชีพครู. เอกสารเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู. (พิมพ์ครั้งที่ ๔). กรุงเทพมหานคร:
โรงพิมพ์คุรุสภาพลาดพร้าว. ๒๕๔๑.
สำนักงาน ก.พ,
จรรยาบรรณ, แหล่งที่มา ;
http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/index.php?option=com _content&view
=article&id=433&Itemid=209. ค้นหา
วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
อำรุง จันทวานิช,
(๒๕๔๑), การประกันคุณภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษากระทรวงศึกษาธิการในแนวคิดและนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาพลาดพร้าว. ๗๘
Delors; others. Learning : The Treasure within.Report
to UNESCO of theInternational Commissiion on
Education for the Twenty first Century Vendome:Unesco Publishing.
๑๙๙๖.
*คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา นิสิตชั้นปีที่ ๔
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์นครพนม
[๑]Teacher Professional Development, จรรยาบรรณในวิชาชีพครู,
แหล่งที่มา; https://educ105.wordpress.com /จรรยาบรรณในวิชาชีพครู/, ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
[๒] Teacher Professional Development, จรรยาบรรณในวิชาชีพครู,
แหล่งที่มา; https://educ105.wordpress.com /จรรยาบรรณในวิชาชีพครู/, ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม
๒๕๕๘.
[๔]ทัศนีย์ บัวคำ, วิชาชีพสาธารณสุข, (กรุงเทพมหานคร :
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๕๔๑), หน้า ๑
[๕]พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ,วิชาชีพและข้อกำหนด, แหล่งที่มา ; http://www.moe.go.th/ edtechfund/fund. ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
[๖]
ราชบัณฑิตยสถาน,พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน,
(กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, ๒๕๓๙),
หน้า ๔.
[๗] สำนักงานก.พ, จรรยาบรรณ, http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/index.php?option=com_content&view
=article&id=433&Itemid=209, ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
[๘] ไกรนุช ศิริพูล . ความเป็นครู Self – Actualization for Teachers, (กรุงเทพมหานคร : นิยมวิทยา.,
๒๕๓๑), หน้า ๑๑๓.
[๑๒] สํานักเลขาธิการคุรุสภา ฝ่ายวิจัยกองวิชาชีพครู, เอกสารเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู.
พิมพ์ครั้งที่ ๔, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาพลาดพร้าว,๒๕๔๑).
[๑๕] Teacher Professional Development, จรรยาบรรณในวิชาชีพครู,
แหล่งที่มา; https://educ105.wordpress.com /จรรยาบรรณในวิชาชีพครู/, ค้นหา วันที่
๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
[๒๑] ดร.พลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง, คุณลักษณะ ครูพันธุ์ใหม่,
หนังสือพิมพ์มติชน: วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๔๗.
[๒๒] ดิเรก พรสีมา, คุรุสภา เปลี่ยนกฎใหม่ขอใบ “แม่พิมพ์” ขู่ครูเมินผิดแพ่ง-อาญา, ASTVผู้จัดการออนไลน์,
๑๐ กันยายน ๒๕๕๓, 00:๒๑ น, ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
[๒๓] วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร, ยุทธศาสตร์เชิงเศรษฐกิจ-เทคโนโลยีในการพัฒนาไทยให้เป็นประเทศอุตสาหกรรม,
บทความ, แหล่งที่มา;
http://www.royin.go.th/upload/knowledge/htmlfiles/care-1359-5509.html/, ค้นหา วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น